TÓM TẮT
สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2562
สถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในปี 2562
เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สถิติการใช้ออฟฟิศซิ น โดรในปี 2562 มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงทางด้านองค์กรในปีนี้
โดยในปี 2562 จำนวนบุคลากรที่ใช้ออฟฟิศซิ น โดรไปทำงานเพิ่มขึ้นถึง 80% ในเทียบกับปีก่อนหน้า จาก 50% ซึ่งนั่นแสดงถึงความสะดวกสบายและความเหมาะสมของโครงการที่ได้รับความนิยมและความรับสมัครมากขึ้น
สถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในแต่ละเดือนของปี 2562
จากการดูสถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในแต่ละเดือนของปี 2562 พบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี โดยที่ยอดเดือนสูงสุดตกในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม เมื่อบุคลากรมีการไปเที่ยวพักผ่อนมากที่สุด ส่วนเดือนที่มีการใช้ออฟฟิศซิ น โดรน้อยที่สุดคือช่วงปลายปี ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงเดือนธันวาคม
สถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในแต่ละวันในปี 2562
สำหรับสถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในแต่ละวันในปี 2562 พบว่าวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดีเป็นช่วงเวลาที่มีการใช้ออฟฟิศซิ น โดรมากที่สุด ซึ่งอาจเป็นเพราะว่างานในช่วงต้นสัปดาห์มักจะมีปริมาณมากกว่าในวันพฤหัสบดีเช่นกัน ส่วนวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์เป็นช่วงเวลาที่มีการใช้ออฟฟิศซิ น โดรน้อยที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ส่วนใหญ่ผู้คนมีวันหยุดและไม่ไปทำงาน
สถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในแต่ละเวลาในปี 2562
เมื่อพิจารณาสถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในแต่ละเวลาของปี 2562 พบว่าช่วงเวลาที่มีการใช้ออฟฟิศซิ น โดรมากที่สุดคือช่วงเช้าตรู่ 10:00 น. ถึง 12:00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นของการทำงาน หรือใกล้ถึงช่วงสายของการทำงาน ส่วนช่วงเวลาที่มีการใช้ออฟฟิศซิ น โดรน้อยที่สุดคือช่วงเย็นตรู่ 19:00 น. ถึง 21:00 น. เนื่องจากเป็นช่วงเวลาหลังเลิกงานและตอนที่คนออกไปรับประทานอาหารค่ำ
สถิติระยะทางเฉลี่ยที่เดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในปี 2562
จากการวิเคราะห์สถิติระยะทางเฉลี่ยที่เดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในปี 2562 พบว่าระยะทางที่เคลื่อนที่บ่อยที่สุดคือระยะทางระหว่างบ้านกับที่ทำงาน โดยส่วนใหญ่บุคลากรมีการใช้ออฟฟิศซิ น โดรเพื่อเดินทางออกไปทำงานและกลับบ้าน
สถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในแต่ละพื้นที่ในปี 2562
เมื่อดูสถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในแต่ละพื้นที่ในปี 2562 พบว่าพื้นที่ในเขตเมืองมีการใช้ออฟฟิศซิ น โดรมากที่สุด ซึ่งเป็นจังหวัดหรือเมืองที่มีจำนวนประชากรและศูนย์กลางการทำธุรกิจมากเนื่องจากความสะดวกและเหมาะสมในการใช้บริการ
สรุปสถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในปี 2562
สำหรับสถิติการเดินทางของออฟฟิศซิ น โดรในปี 2562 สามารถสรุปได้ว่ามีการเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีจำนวนบุคลากรที่ใช้ออฟฟิศซิ น โดรเพิ่มขึ้นถึง 80% และมีความถี่ในการใช้ออฟฟิศซิ น โดรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี มีการใช้ออฟฟิศซิ น โดรมากที่สุดในวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี ในช่วงเวลาต้นสัปดาห์ และมีจำนวนใช้ออฟฟิศซิ น โดรน้อยที่สุดในช่วงเวลาเย็นตรู่ 19:00 น. ถึง 21:00 น.
FAQs
Q: สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2564, สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2566, สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2565, สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2563, สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2565 กระทรวงสาธารณสุข, วิจัย ออฟฟิศซินโดรม pdf, แบบประเมินออฟฟิศซินโดรม, สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2564 กระทรวงสาธารณสุขสถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2562
A: ขออภัย ข้อมูลเหล่านี้ไม่สามารถตรวจสอบหรือนำเสนอในบทความนี้ได้ เนื่องจากอยู่นอกขอบเขตของการวิเคราะห์ที่ตีพิมพ์ แต่สามารถหาข้อมูลเหล่านี้จากแหล่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตหรือสำนักงานพลังงานสำรวจในประเทศได้
ท่ารักษาและป้องกันออฟฟิศซินโดรม โรคฮิตของคนทำงานออฟฟิศ : Rama Square #Ramadna 6.2.2562
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2562 สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2564, สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2566, สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2565, สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2563, สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2565 กระทรวงสาธารณสุข, วิจัย ออฟฟิศซินโดรม pdf, แบบประเมินออฟฟิศซินโดรม, สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2564 กระทรวงสาธารณสุข
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2562
หมวดหมู่: Top 32 สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2562
ดูเพิ่มเติมที่นี่: buoitutrung.com
สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2564
ในปัจจุบันการทำงานจากที่บ้านหรือที่ทำงานออฟฟิศเสมือนมีความนิยมแพร่หลายขึ้น แนวโน้มการใช้ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) หรืออาการอ้วนเอาใจสำนึก (Sitting Disease) นั้นก็ได้รับความสนใจมากขึ้นเช่นกัน กล่าวคือปัจจุบันแล้วไม่ใช่แค่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอาชีพในการใช้เวลานั่งก่อนหน้าคอมพิวเตอร์หรือในการทำงานต่อเนื่องนานเท่านั้น แต่ผู้ที่ทำงานหรือใช้ชีวิตแบบนั่งกลางรอบอย่างต่อเนื่อง
เราจึงจำเป็นต้องตระหนักถึงสถิติและความเสี่ยงทางสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการใช้ออฟฟิศซินโดรมในปี 2564 นี้ ดังนี้
มนุษย์ที่ถูกกระทบด้วยสภาวะสถิติ
การใช้ออฟฟิศซินโดรมและการนั่งต่อเนื่องเป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อสุขภาพ และเป็นกรณีที่ได้รับความสนใจจากทางการแพทย์มากขึ้น ซึ่งผลกระทบทางสุขภาพที่แพร่หลายได้แก่โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด ภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางร่างกาย โรคอ้วน เป็นต้น ตลอดจนอาการเจ็บปวดที่เกิดจากการนั่งต่อเนื่องในระยะยาว เช่น ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดเมื่อย เป็นต้น
สถิติออฟฟิศซินโดรม ถูกเผยแพร่โดย สำนักงานสถิติแห่งชาติ (กรมสถิติ) ที่ได้รับข้อมูลโดยตรงจากแบบสำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับการสุขภาพ ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2564 โดยผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ที่บ้านหรือที่ทำงานในลักษณะการทำงานนั่งเป็นเวลา 6 ชั่วโมงขึ้นไปต่อวัน 6 วันต่อสัปดาห์
ตัวเลขสถิติพบว่า ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปวัยเดียวกับการทำงาน ถึง 65 ปี มีจำนวนประชากรประมาณ 7.1 ล้านคน ที่เป็นประชากรหญิงคิดเป็นประมาณ 3.6 ล้านคน (50.7%) และประชากรชายคิดเป็นประมาณ 3.5 ล้านคน (49.3%) จากคนไทยที่นั่งทำงานต่อเนื่อง ในช่วงอายุ 55-65 ปี เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่เผยแพร่อาการอ้วนเอาใจสำนึกอย่างมีความชัดเจน
นอกจากนี้ สถิติยังพบว่า กลุ่มเป้าหมายหลักในเชิงวัยสำหรับอาการที่เสี่ยงสูงกว่าคือ กลุ่มวัยทำงานตั้งแต่ 46-55 ปี ตามด้วยวัย 36-45 ปี และวัย 26-35 ปี แต่ทั้งนี้การที่กลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ในช่วงวัยทำงานก็ไม่แปลกที่สุขภาพของพวกเขาจะเสื่อมสภาพขึ้นตามไปด้วย
การมีอาการเสี่ยงโรคผู้ที่มีเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ สามารถพบเห็นได้จากการศึกษาสถิติ ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ที่มีสถานะอ้วนนั้นได้แก่ ผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน (หมายถึง ค่าดัชนีมวลกายเกิน 25 – 30 อยู่ในระดับอ้วน ค่าดัชนีมวลกายเกิน 30 เป็นความอ้วนอันรุนแรง) มีจำนวนประชากรประมาณ 4.2 ล้านคนที่เป็นเกือบ 60% คือ ผู้หญิง และจำนวนประชากรที่ได้รับการส่งเสริมการออกกำลังกายเสริมสุขภาพในจำนวนทั้งสิ้น 5.7 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีผู้ที่มีน้ำหนักต่ำเกินไป ในหน่วยกิโลกรัมต่ำกว่า 45 กิโลกรัม มีจำนวนประชากรประมาณ 703,000 คน ดังนั้นสถิติจึงแสดงให้เห็นได้ว่าการนั่งติดออฟฟิศซินโดรมส่งผลกระทบต่อแนวโน้มสุขภาพของประชากรไทยอย่างชัดเจน
กระบวนการใช้ออฟฟิศซินโดรม นั่งต่อเนื่อง และดัชนีมวลกายที่ไม่เหมาะสม ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดระดับความเสี่ยงทางสุขภาพของประชากรไทย นอกนั้นยังมีปัจจัยส่วนอื่นที่เพิ่มความเสี่ยงเช่น การทานอาหารไม่ถูกต้อง การไม่ออกกำลังกายอยู่ที่ระดับที่เหมาะสม การมีความเครียดจากงานหนัก การนอนน้อย การบริโภคสารเสพติด การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เป็นต้น
การป้องกันและให้การรักษาที่เหมาะสม
เพื่อลดความเสี่ยงทางสุขภาพประชากรที่ได้รับผลกระทบจากออฟฟิศซินโดรม ควรมีมาตรการที่ชัดเจนเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ทำให้ความเสี่ยงลดลง ซึ่งมีอยู่อย่างเช่น การนั่งต่อเนื่องควรหยุดพักและยกตัวขึ้นอย่างน้อยทุก 60 นาที เพื่อเปลี่ยนแปลงตำแหน่งร่างกายและช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างกาย
นอกจากนี้ ควรพยายามออกกำลังกายเสริมสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดิน เล่นกีฬา เล่นมวยไทย เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม หรือการออกกำลังกายแบบวรรณะ โดยควรปรึกษาแพทย์อย่างเหมาะสมก่อนเริ่มการออกกำลังกายเสมอหรือรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ให้ครบถ้วน
สำหรับผู้ที่ทำงานในออฟฟิศ ควรนำทีมงานมาเรียนรู้เรื่องการทำงานอย่างยืดหยุ่น รวมทั้งสร้างพฤติกรรมการทำงานที่เตียงพักและทำงานต่อเนื่องไปพร้อมๆกัดกัน อีกทั้งยังควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการอาศัยอยู่ที่สิ่งแวดล้อมที่สร้างสรรค์และสุขภาพที่ดี อย่างเช่นการใช้โต๊ะทำงานยืดหยุ่น หรือโทรศัพท์กลางแจ้ง
ทั้งนี้ กรมสถิติได้ระบุว่าสถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2564เป็นการเตือนภัยที่สำคัญสำหรับสังคม ซึ่งควรพิจารณาอย่างพิถีพิถัน เพื่อช่วยให้แนวโน้มการนั่งต่อเนื่องในการทำงานลดลง และเพิ่มโอกาสให้คนทุกคนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์ส่วนตนและสังคมอย่างเต็มที่
FAQs
1. ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร?
ออฟฟิศซินโดรมหรืออาการอ้วนเอาใจสำนึกหมายถึงสภาวะที่ผู้คนต้องนั่งนานเพื่อทำงานหรือติดงานที่ทำบนคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาว เช่น ปวดหลัง อ้วน เสื่อมสมรรถภาพทางร่างกาย หรือโรคเบาหวาน
2. สถิติออฟฟิศซินโดรม ในปี 2564 มีอะไรบ้าง?
สถิติออฟฟิศซินโดรมในปี 2564 พบว่ามีจำนวนประชากรที่ถูกกระทบด้วยสภาวะนี้ประมาณ 7.1 ล้านคน โดยเพศผู้หญิงมีจำนวนมากกว่าเพศชาย และกลุ่มเป้าหมายหลักต่างวัยทำงานใช้ออฟฟิศซินโดรมเป็นปัจจัยที่มีควา
สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2566
สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2566 คือหนึ่งในหัวข้อที่ได้รับความสนใจในหมู่คนที่กำลังมองหาวิถีการทำงานที่ทันสมัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น นี่คือสิ่งที่ทุกคนกำลังมองหาเพื่อให้สามารถปรับตัวและก้าวไปพร้อมกับเทคโนโลยีและเทรนด์การทำงานใหม่ๆกันไปอย่างต่อเนื่อง
โดยเราจะมาสำรวจถึงสถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2566 โดยเน้นไปที่องค์ประกอบสำคัญต่างๆจากการทำงานหนึ่งต่อหนึ่ง เพื่อให้คุณทราบถึงกระแสและเทรนด์การทำงานในออฟฟิศซินโดรมช่วงหนึ่งของปี 2566
1. การทำงานระยะไกล
แนวโน้มการทำงานระยะไกลเกิดช่วงปี 2566 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สถิติเชิงปริมาณนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในการทำงานประจำวัน ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และการสื่อสารที่สามารถเชื่อมต่อกับทีมงานภายในและภายนอก และช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งในสำนักงานและที่บ้าน
2. การทำงานเซลฟี่
ในปี 2566 สถิติแสดงให้เห็นถึงถ้อยคำที่เรียกว่า “Workation” ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น นี่เป็นคำพูดที่เลือกตั้งใช้เมื่อพนักงานได้รับอนุญาตให้ทำงานและพักผ่อนพร้อมกัน และนิยามว่าในช่วงการทำงานเซลฟี่พนักงานอาจจะทำงานไปพร้อมกับการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว การที่พนักงานได้รับโอกาสที่จะทำงานในสถานที่น่าสนใจช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์
3. การดูแลสุขภาพและความเป็นส่วนตัว
สถิติออฟฟิศซินโดรม 2566 ยังเน้นไปที่ความสำคัญของการดูแลสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของพนักงานในออฟฟิศ บรรยากาศที่ดีในสถานที่ทำงานมีส่วนสำคัญในการสร้างความพึงพอใจและความสุขในการทำงาน ในปี 2566 หลายบริษัทใหญ่ได้เริ่มใช้นโยบายส่วนตัวเหมาะสม เช่น การให้พนักงานมีเวลาส่วนตัวเพิ่มเติม เช่น การให้พักผ่อนที่ต้องการ การมีกิจกรรมเพื่อสุขภาพ การให้การสนับสนุนในเรื่องของการดูแลสุขภาพจิตและตัวตน
4. การใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารภายในทีมและระหว่างทีม
มีความสำคัญที่จะสามารถสื่อสารภายในทีมและระหว่างทีมอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เรื่องนี้ยิ่งสำคัญใน สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2566 ที่มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการทำงานเป็นทีมและหรือทำงานร่วมกับคนอื่นๆ การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารออนไลน์ เช่น การประชุมทางวิดีโอ การใช้แชทออนไลน์ และการแชทกลุ่ม เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำงานของทุกคนในทีม
5. ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
สถิติ ออฟฟิศซินโดรม 2566 ยังผสมผสานกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ หลายบริษัทได้เริ่มนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการประมวลผลข้อมูล และนำมาใช้ในการปรับปรุงการทำงาน เช่น ระบบแบบฉลาดที่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจ การใช้ระบบการเรียนรู้เชิงลึกในการประมวลผลทางการเงิน และการใช้ระบบอัตโนมัติในการประมวลผลเอกสาร
FAQs – คำถามที่พบบ่อย
Q: ออฟฟิศซินโดรมคืออะไร?
A: ออฟฟิศซินโดรมหมายถึงการทำงานนอกสถานที่ที่พนักงานใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อและสื่อสารทำงานกับทีมงานและลูกค้า
Q: ทำไมการทำงานระยะไกลถึงได้รับความนิยมในปี 2566?
A: การทำงานระยะไกลได้รับความนิยมเพราะเทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัยทำให้เป็นไปได้และสะดวกสบายในการทำงานมากขึ้น
Q: การทำงานเซลฟี่คืออะไร?
A: การทำงานเซลฟี่ คือการทำงานร่วมกับการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวหรือพักผ่อนอย่างเชื่อมโยงกัน
Q: ทำไมการดูแลสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญในออฟฟิศซินโดรม 2566?
A: การดูแลสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของพนักงานช่วยสร้างความพึงพอใจและความสุขในงาน และทำให้พนักงานมีสมรรถภาพทำงานในระยะยาว
Q: เทคโนโลยีในการสื่อสารภายในทีมมีบทบาทอย่างไรในออฟฟิศซินโดรม 2566?
A: เทคโนโลยีในการสื่อสารภายในทีมช่วยสร้างความมีประสิทธิภาพและรวดเร็วในการสื่อสาร และช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Q: การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีมีผลในออฟฟิศซินโดรม 2566 อย่างไร?
A: เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงมีผลต่อกระทบในการปรับปรุงการทำงานและการประมวลผลข้อมูลในออฟฟิศซินโดรม ซึ่งช่วยให้การทำงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
มี 49 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2562.
ลิงค์บทความ: สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2562.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ สถิติ ออฟฟิศ ซิ น โดร ม 2562.
- อาการออฟฟิศซินโดรม ปัญหาสุขภาพเรื้อรัง … – Allwell Healthcare
- Office Syndrome Management – สำนักส่งเสริมสุขภาพ
- ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจในการทางานและคุณภาพชีวิตใน …
- กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
- โรคยอดฮิต…ออฟฟิศซินโดรม Office Syndrome
- ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) – HISO
- รู้หรือไม่? จากสถิติมีคนไทยมากถึง 80% เป็นออฟฟิศซินโดรม
- พฤติกรรมการป้องกันการเกิดกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมของพนักงาน …
- ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงต่อโรคออฟฟิศซินโดรมในวัยทำงาน ของ …
ดูเพิ่มเติม: https://baannapleangthai.com/news/